Pages

Friday, August 13, 2010

CPN TO CONFIRM LADPRAO REVAMP


"ซีพีเอ็น" ย้ำแผนลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์เต็มรูปแบบ ด้วยงบ 8 พันล้าน เผยพร้อมควัก 4 พันล้าน พลิกโฉมใหม่ "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" กับคอนเซ็ปต์ "More Rewarding Experience" หวังกวาดลูกค้ากระเป๋าหนักเพิ่ม 20% ขณะเดียวกันทุ่มอีก 2.8 พันล้าน เร่งพลิกฟื้น "เซ็นทรัลเวิลด์" ให้แล้วเสร็จทันเปิดเฟสแรกปลายก.ย.นี้ คาดสรุปเงินประกันกว่า 3 พันล้าน ในเดือนก.ย. ย้ำรายได้รวมของบริษัทยังโต 14-15%

นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา, เซ็นทรัล เฟสติวัล และเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดเผยว่า แผนการลงทุนของบริษัทในปี 2553 และ 2554 จะใช้งบลงทุนรวม 7,000 -8,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ โดยบริษัทเตรียมแผนปรับปรุงเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ด้วยเงินลงทุนเกือบ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนของศูนย์การค้ากว่า 2,200 ล้านบาท และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอีกกว่า 1,500 ล้านบาท โดยภาพลักษณ์ใหม่จะอยู่ภายใต้แนวคิด More Rewarding Experience เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้สูง เพิ่มพื้นที่โซนร้านอาหาร ภัตตาคาร อีก 50% และเพิ่มแม็กเนตด้านแฟชั่น โดยเฉพาะร้านค้าแบรนด์เนม ที่เคยเปิดให้บริการในเซ็นทรัลเวิลด์ จะเข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มอีก 20% นอกจากนี้มีการเพิ่มพื้นที่จอดรถอีก 500 คัน ทำให้มีที่จอดรถเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 คัน รวมทั้งการทำทางเดินเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเกิดความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยจะปิดปรับปรุงเป็นเวลา 6 เดือน นับจากวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554

"ขณะนี้จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวลดลงประมาณ 20% มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 1.5 แสนคนต่อวัน หลังจากที่มีการปรับปรุงสาขาลาดพร้าวแล้ว คาดว่าจะได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะระดับเอและบีบวกเพิ่มขึ้นอีก 20% โดยตั้งเป้าที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 1.5-1.7 แสนคนต่อวัน"

สำหรับเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ได้รับการต่อสัญญาเช่าพื้นที่กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้วยระยะเวลา 20 ปี เริ่มจากปี 2552 มีพื้นที่กว่า 47 ไร่ เป็นพื้นที่ค้าปลีก 3 แสนตารางเมตร โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวมีพื้นที่เฉลี่ย 1.4 แสนตารางเมตร หลังการปรับปรุงสาขาลาดพร้าวแล้วเสร็จ ค่าเช่าพื้นที่ภายในศูนย์จะปรับขึ้นกว่า 10% โดยปัจจุบันทำรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีสัดส่วนกว่า 10% ของรายได้ทั้งหมด
นายกอบชัย กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทยังใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทสำหรับปรับปรุงเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมศกนี้ ขณะที่การพัฒนาศูนย์การค้าในรูปแบบของโอเพน แอร์ มอลล์ ในย่านศรีนครินทร์ ที่เดิมมีแผนจะดำเนินการในปีนี้นั้น บริษัทจะชะลอออกไปก่อน และทำการศึกษาแผนการลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญและต้องลงทุนก่อน ขณะเดียวกันจะดำเนินการศึกษาโครงการโอเพน แอร์ มอลล์ในทำเลอื่นๆ ที่มีความเหมาะสมด้วย ส่วนแผนการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย, พิษณุโลก และพระราม 9 ยังคงดำเนินต่อเนื่องและคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2554

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 14-15% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้จะเกิดสถานการณ์ต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัท โดยรายได้ของบริษัทมาจากการปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ย 10-20% ในศูนย์การค้าต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 16 ศูนย์ ขณะที่การทำประกันภัยของเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งทำประกันไว้ครอบคลุมทุกกรณีทั้งวินาศกรรม และการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ โดยวงเงินการทำประกันมีมูลค่าสูงกว่า 3,000 ล้านบาท ดังนั้นแม้จะต้องใช้เงินลงทุนในการปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเกิดความเสียหายจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เป็นจำนวน 2,800 ล้านบาท ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโครงการอื่น ทั้งนี้การพิจารณาของบริษัทประกันภัยในต่างประเทศจะสามารถสรุปได้ภายในเดือนกันยายนนี้

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails