สำนักงานจัดการทรัพย์สิน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุ่มงบประมาณกว่า 1,800
ล้านบาท ผุดโปรเจ็กต์ยักษ์ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน
กลางสยามสแควร์ด้วยคอนเซ็ปต์ "Urban
Shopping Street" สีสัน...สู่อนาคต
ศูนย์การค้าที่จะรวบรวมทั้งสินค้าแฟชั่นจากทั่วทุกมุมโลก เตรียมเปิดจองพื้นที่เมษายนนี้
ก่อนเผยโฉมปลายปี 2556 และจ่อเปิดเฟสใหม่เพิ่ม
ทั้งลงทุนเองและร่วมทุนในอีกหลายโซนย่านสยามสแควร์
รศ.น.อ.น.พ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี กำกับดูแล
สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า
สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทุ่มงบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท
ในการพัฒนาพื้นที่โรงภาพยนต์สยามสแควร์เก่าให้เป็นศูนย์การค้าที่ครบวงจร
ภายใต้ชื่อศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน (Siam Square
One : SQ-1) กับคอนเซ็ปต์ Urban
Shopping Street สีสัน...สู่อนาคต
บนพื้นที่รวมโครงการ 74,000 ตร.ม.
โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะในการเป็นแหล่งรวม One Stop Shopping ของความหลากหลายในไลฟ์สไตล์
จากร้านค้ากลุ่ม Flagship
Stores แฟชั่น
เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง
จากกลุ่มยังดีไซเนอร์ของคนไทย และอินเตอร์แบรนด์ และกลุ่มสินค้าไอที
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเน้นระดับ B+
ถึง A ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา นักเรียน กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่
นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงพฤติกรรมการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า
1,000 บาทต่อครั้ง
ทั้งนี้ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน มีทั้งหมด 9 ชั้นโดยชั้น B เป็นพื้นที่จอดรถ ชั้น LG และชั้น 1
เป็นชั้นสำหรับ Young Designer ที่เกิดขึ้นและเติบโตมากับสยามสแควร์
รวมทั้งเป็นลานกิจกรรม ขณะที่ชั้น 2
และชั้น 3 เป็นชั้นที่รวบรวมสินค้า International
Fashion สินค้าไอที และลานกิจกรรม Cielo Hall ชั้น
4 ถูกจัดวางให้เป็นโซนร้านอาหารเอาใจวัยรุ่นกับร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ชิกๆ ชั้น 5 เป็นพื้นที่รวบรวมร้านอาหารที่มีระดับ
รองรับทุกคนในครอบครัว ด้วยรูปแบบหรูหราแฝงความอบอุ่น ชั้น 6
เป็นชั้นที่รวบรวมธนาคารและสถาบันสุขภาพและเสริมความงามแบบครบวงจร และชั้น 7
Sky Hall และ Roof Garden ที่เป็นลานอเนกประสงค์
ในลักษณะอัฒจันทร์กลางแจ้ง (Amphitheatre) และศูนย์จัดแสดงสินค้า
นิทรรศการ งานศิลปะในแขนงต่างๆ (Exhibition Hall)
ด้านสถาปัตยกรรมการตกแต่งนั้น
ถูกถ่ายทอดรูปแบบแนวคิดของเส้นทางเดินสำหรับลูกค้าภายในศูนย์การค้า ใน 2 ส่วนหลัก
ได้แก่ 1.พื้นที่ปรับอากาศ ชั้น 1 และ LG รวม 2 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 20,300 ตร.ม. ซึ่งกำหนดให้เป็นพื้นที่สำหรับร้านค้าย่อย (Small Shops) มีบรรยากาศแบบอันเดอร์กราวด์แฟกตอรี
เป็นศูนย์แฟชั่นและการออกแบบให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 2.พื้นที่อาคารเหนือระดับพื้นดินรวม 6 ชั้น
พื้นที่รวม 54,000 ตร.ม.
ถูกออกแบบให้ทันสมัยด้วยทางลาด สำหรับกิจกรรมต่างๆ พร้อมทางเดินเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าสยามได้อย่างสะดวกสบาย
อีกทั้งยังสามารถเดินต่อเนื่องไปยังชั้นที่อยู่ถัดไปของอาคาร
นอกจากนี้ในแต่ละชั้น
จะคงบรรยากาศของทางเดินภายนอกอาคารที่มีทั้งรูปแบบสวนแนวตั้งและต้นไม้ใหญ่
กระจายต่อเนื่องตามจุดต่างๆ ทุกชั้น
"น่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการวันละประมาณ 50,000 คนขึ้นไปและคาดว่าจะสร้างรายได้และคุ้มทุนในระยะ 6-7
ปีนี้เพื่อนำรายได้ไปสนับสนุนในการพัฒนาการศึกษาต่อไป
โดยกำหนดเปิดรับจองในเดือนเมษายนศกนี้ในอัตราค่าเช่าที่ไม่สูงมาก ส่วนหนึ่งประมาณ
50-60% เพื่อรองรับลูกค้าเดิมที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โดยต้องการให้ศูนย์การค้าสยามสแควร์วันตอบสนองทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
มุ่งมั่นที่จะให้เป็นศูนย์การค้าต้นแบบของการเป็น Urban Shopping Street แห่งแรกของประเทศไทย
มั่นใจว่าจะสยามสแควร์วันจะกลายเป็นจุดนัดพบของทุกคนในอนาคต
ส่วนกลยุทธ์การตลาดช่วงปี 2555 - 2556 ได้เตรียมแผนการสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์สยามสแควร์วันผ่านทุกช่องทางการสื่อสารซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความตื่นเต้นได้สมกับการรอคอยของกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้จะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 2556 ซึ่งจะเป็นอีก Landmark หนึงของกรุงเทพฯ
ที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนั้นยังเตรียมเปิดเฟสใหม่เพิ่มอีกอย่างต่อเนื่องในโซนสยามสแควร์มีทั้งลงทุนเองและการร่วมลงทุน"
รศ.น.อ.น.พ.เพิ่มยศ กล่าว
No comments:
Post a Comment