CENTRAL ชิงประมูลที่ดินจุฬาฯ จ่อเพิ่ม"ค่าเช่า-เซ้ง"ศูนย์การค้า

"ซีพีเอ็น" เดินหน้าลงทุน 5 หมื่นล้าน ภายใน 5 ปี เผยสนใจร่วมประมูลที่ดินจุฬาฯ แยกสามย่าน เล็งขึ้นคอมเพล็กซ์ "มิกซ์ยูส" พร้อมเตรียมปรับโครงสร้างเก็บค่าเช่าศูนย์การค้าแบบใหม่เน้นคิดตามยอดขายของร้านค้า-ลดรูปแบบเช่าเซ้งยาว เตรียมฟ้องศาลเรียกเงินประกันเซ็นทรัลเวิลด์

นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า จากนี้ไปบริษัทยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจต่อเนื่องตามแผนการลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2015 สำหรับการเปิดสาขาใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่ จ.พิษณุโลก และพระราม 9 ในช่วงปลายปีนี้ และเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี กลางปี 2555 จากนั้นเตรียมเปิดเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ในปี 2556 ส่วนพื้นที่สวนลุมพินี ยังคงรอการส่งมอบพื้นที่ โดยจากการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละประมาณ 15% ต่อเนื่องหลังจากนี้

"นอกจากเงินของบริษัทและการกู้จากสถาบันการเงินแล้ว บริษัทต้องนำทรัพย์สินบางส่วนเข้าไปในกองทุน CPNRF เช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ ที่จะเปิดมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถนำเข้าในกองทุนได้ราวปลายปีหน้า รวมถึงทรัพย์สินอาคารสำนักงาน เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมที่พัทยาและอุดรธานี ตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบ ซึ่งการนำทรัพย์สินเข้ากองทุน จะทำให้บริษัทได้เงินเพียงพอตามแผนการลงทุน"

ควบคู่กับการเพิ่มพื้นที่ในทำเลต่าง ๆ นายนริศกล่าวว่า บริษัทสนใจการลงทุนบนที่ดินของจุฬาฯ แยกสามย่าน โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล ซึ่งมองว่าเป็นพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาต่อได้ ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าว จุฬาฯจะเปิดให้เอกชนที่สนใจเข้าซื้อซองประมูลในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยโครงการนี้ตั้งเป้าพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์บนเนื้อที่ 2 แสน ตร.ม. ประกอบด้วยโรงแรม อาคารสำนักงาน สำนักงานให้เช่า และพื้นที่ค้าปลีก มูลค่าโครงการประมาณ 3-4 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจะปรับโครงสร้างการจัดเก็บค่าเช่าศูนย์การค้าแบบใหม่เพื่อเพิ่มรายได้และการเติบโตแบบต่อเนื่อง โดยต้องการเพิ่มการเก็บค่าเช่าตามยอดขายของร้านค้า และลดในส่วนของการเก็บแบบเช่าระยะยาวหรือเซ้งให้น้อยลง ปัจจุบัน 51% ของรายได้มาจากค่าเช่าคงที่ คือเช่า 3 ปีเป็นหลัก และมาจากการเก็บค่าเช่าระยะยาวหรือเซ้ง 25% ส่วนอีก 24% ที่เหลือจัดเก็บตามยอดขายของร้านค้า ซึ่งในอีก 5 ปีหลังจากนี้ การเก็บตามรายได้ร้านค้าจะเพิ่มเป็นมากกว่า 40%

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนกันยายนนี้ บริษัทจะยื่นฟ้องบริษัทประกันในประเทศ จากกรณีความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากบริษัทประกัน และยังไม่ได้จ่ายค่าประกันความเสียหาย ซึ่งบริษัทมีวงเงินประกันประเภท AII Risks ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และ Terrorism อีก 3.5 พันล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทประกันให้เหตุผลว่า บริษัทประกันที่รับช่วงต่อในต่างประเทศยังไม่ยอมจ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาเซ็นทรัลเวิลด์ทำประกันทั้ง 2 ประเภทกับบริษัทเทเวศประกันภัย และไทยเศรษฐกิจประกันภัย