นายเวทิต โชควัฒนา
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป
ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สังเกตว่าที่ผ่านมา ร้าน
108 ช็อป ค่อนข้างเงียบ เนื่องจากนโยบายก่อนหน้านี้ไม่เน้นเปิดสาขาเพิ่ม
แต่หันมารีวิวธุรกิจในภาพรวมโดยปิดสาขาที่ขาดทุนทิ้งทั้งหมด เฉลี่ยเดือนละ 7-10
สาขา ซึ่งทำให้ธุรกิจ 108 ช็อป มีผลกำไรดีขึ้น สิ่งที่บริษัทได้เรียนรู้คือ
ที่เกิดขึ้นมีการเร่งขยายตัวร้าน 108 เร็วเกินไป
คือเน้นขยายสาขาแต่พบว่าหลายร้านไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบ
หรือรูปโฉมของสาขา ที่ไม่ได้เป็นรูปแบบเดียวกัน หรือไม่มีความทันสมัย
ทั้งนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวรูปโฉมของร้าน
108 ช็อปใหม่ภายในปีนี้ โดยอยู่ระหว่างปรับโฉมรูปแบบใหม่
ที่ผ่านมามีการปิดสาขาต่อเดือน 7-10 แห่ง และมีเปิดสาขาใหม่ 4-5 แห่ง
ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 700 แห่ง
"เราจะปิดไปเรื่อย ๆ
และให้เหลือแต่สาขาที่แข็งแรง และจะทยอยปรับให้เป็นรูปแบบเดียวกันหมด
เริ่มต้นปีนี้ 50 สาขา" นายเวทิตกล่าวและว่า
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนอัพเกรดสินค้าต่าง
ๆ ที่จำหน่ายภายในร้าน โดยเฉพาะกลุ่ม "อาหารพร้อมรับประทาน"
ที่ต้องเพิ่มเข้ามามากขึ้น เนื่องจากเป็นจุดขายหลักของร้านสะดวกซื้อ
ปัจจุบันมีการติดต่อกับซัพพลายเออร์หลายราย
ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาว่าจะเป็นรูปแบบไหน
หนึ่งในแนวทางคืออาจเป็นการรับจ้างผลิตให้เฉพาะร้าน 108 ช็อป โดยใช้แบรนด์ 108
ช็อป ทั้งนี้หากมีการเพิ่มกลุ่มอาหารสำเร็จรูปเข้ามา บริษัทต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องทีมงาน
การลงทุนด้านตู้แช่ การบริหารเรื่องโลจิสติกส์
เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีอายุสินค้าสั้นกว่าสินค้าประเภทอื่น ๆ
"108 ช็อป
ถามว่าตอบโจทย์ธุรกิจของสหพัฒน์อย่างไร 108 ช็อปเป็นร้านสะดวกซื้อ
วันนี้มันต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจากการปรับครั้งนี้เชื่อว่าธุรกิจจะแข็งแรงและไปได้มากขึ้น"
นายเวทิตยังได้กล่าวถึง มาม่า
ที่สหพัฒน์เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าว่า บริษัทมีแผนปรับราคาขายส่งขึ้นบ้างเล็กน้อย
จากต้นทุนต่าง ๆ ที่ปรับขึ้น แม้ขณะนี้ราคาน้ำมันจะเริ่มลดลงแล้วก็ตาม
แต่ยังมีต้นทุนในส่วนอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับราคาขายส่งครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาสังเกตได้ว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตเพียง 1% ในช่วง
5 เดือนที่ผ่านมา
ตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริโภคมีการตุนสินค้าไว้ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว
ทำให้มีการชะลอการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลง แต่กลุ่มที่เติบโตดีคือมาม่าคัพ
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นความสะดวกสบายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของมาม่าปีนี้ที่ 7%
No comments:
Post a Comment