ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเกิดขึ้นของสะพานมิตรภาพไทยลาว สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งแรกของไทยที่เชื่อมหนองคายกับนครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่บ้านท่านาแล้ง เมื่อปี 2534
กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญทำให้การค้าและการลงทุนในพื้นที่อีสานตอนบนคึกคักและมีสีสันผิดหูผิดตา ขณะที่อุดรธานี เมืองหน้าด่านที่เป็นประตูไปสู่การค้า
การลงทุนในตลาดอินโดจีนก็ได้รับอานิสงส์จากเส้นทางคมนาคมสายนี้เช่นเดียวกัน เพราะแค่ไม่กี่ปีก็มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาลงทุนไม่ขาดสาย ทั้งจากกลุ่มทุนบิ๊กแบรนด์และเจ้าถิ่น
ไม่แปลกที่ยักษ์ค้าปลีกอย่าง "เซ็นทรัลพัฒนา" ยอมทุ่มเงินหลายพันล้านบาท เทกโอเวอร์โครงการเจริญศรีคอมเพล็กซ์จากกลุ่ม "อุดรเจริญศรี"
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น "บิ๊กดีล" ที่สร้างความฮือฮามากที่สุด
ล่าสุดกลุ่มทุนเจ้าถิ่น "วรพล วีรชาติยานุกูล" "กลุ่มอุดรพลาซ่า" นักธุรกิจพันล้านและแลนด์ลอร์ดเมืองอุดรฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ทุ่มทุนกว่า 600 ล้านบาท
เช่าที่ดินแปลงงาม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เนื้อที่กว่า 25 ไร่ ผุด "ยูดี ทาวน์ เดอะ นิว เอ็กพรีเรียนซ์" โอเพ่นมอลล์ใหญ่สุด ในประเทศ
รับกระแสบูม เจาะกำลังซื้อ ทั้งในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง และที่ทะลักมาจากนครเวียงจันทน์
"วรพล" บอกว่า ได้สิทธิเช่าที่ดินแปลงนี้ 30 ปี ต่อสัญญาได้อีก 30 ปี จึงนำมาพัฒนาเป็นโอเพ่นมอลล์พื้นที่ใหญ่สุดในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด กรีนคอนเซ็ปต์
เพื่อให้เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ระดับพรีเมี่ยมแห่งใหม่ของอินโดจีน ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ครบวงจร ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งพบปะสังสรรค์ ซูเปอร์มาร์เก็ต
ศูนย์เทคโนโลยีการสื่อสาร ติวเตอร์ ฯลฯ
ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 85% มีผู้เช่าระดับอินเตอร์แบรนด์กว่า 80% คาดว่าทันทีที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นราย/วัน
โดยปีแรกที่ลอนช์โครงการได้ทุ่มงบฯ การตลาดกว่า 50 ล้านบาท จัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ อาทิ จับมือการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี จัดแคมเปญดึงลูกค้าเข้าโครงการ
ร่วมกับ ร.ฟ.ท.จัดรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีท่านาแล้ง-อุดรฯ ขนทัพนักกีฬาและสตาฟเข้ามา ช็อปปิ้งในโครงการ พร้อมให้ส่วนลดมากถึง 50-70%
ในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2009 ที่นครเวียงจันทน์ ฯลฯ
"ในปีแรกน่าจะมีรายได้ 150 ล้านบาท ไม่รวมรายได้จากการจัดอีเวนต์อีกไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านบาท/เดือน เป้าหมายต่อไปคือ ปั้นยูดีฯให้แจ้งเกิดในวงการค้าปลีกให้ได้
โดยมีแพลนที่จะขยายธุรกิจในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นหนองบัวลำภู สกลนคร ฯลฯ"
นอกจากนี้ยังสนใจจะเข้าไปลงทุน ในประเทศลาวด้วย โดยได้รับการชักชวนจากนักธุรกิจอสังหาฯมาเลเซียที่เข้าไป ร่วมทุนทำธุรกิจกับนักธุรกิจลาว และทำสัญญาเช่าที่ดินเนื้อที่บริเวณท่านาแล้ง
ติดด่านตรวจคนเข้าเมืองลาว 50 เฮกตาร์ หรือราว 300 ไร่ จากรัฐบาลลาวระยะเวลา 50 ปี ตามแผนจะพัฒนา เป็นฟรีเทรดโซนมูลค่าลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
โดยจะแบ่งที่ดินบางส่วนประมาณ 50 ไร่ เพื่อพัฒนาธุรกิจรีเทล แต่อยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมายและรูปแบบการลงทุน
No comments:
Post a Comment